นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสิ่งมีชีวิตแรกในระบบสุริยะ อาจเกิดขึ้นบนดาวอังคารก่อนโลก
สรุปถ้าสมมติฐานของนักวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้เป็นความจริงที่บอกว่าสิ่งมีชีวิตแรกในระบบสุริยะ อาจเกิดขึ้นบนดาวอังคารก่อนโลก ความคิดนี้มันก็จะไปย้อนแย้งกับลัทธิศาสนาต่างๆที่อ้างว่าพระเจ้าสร้างโลกสร้างชีวิน แน่นอนเพราะว่าวิทยาศาสตร์มีหลักฐานและเหตุผลที่รองรับสมมติฐานที่น่าจะเป็นจริงมากกว่าสมมติฐานความเชื่อทางศาสนา เพราะฉะนั้นความเชื่อทางศาสนาที่ว่าพระเจ้าสร้างโลก สร้างชีวิต กับความคิดของนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบว่าสิ่งมีชีวิตแรกในระบบสุริยะ อาจเกิดขึ้นบนดาวอังคารก่อนโลก มันคงจะไปด้วยกันไม่ได้แน่นอนย้อนแย้งกันมากๆเลยนะครับ
แล้วแต่ความเชื่อนะครับคนที่นับถือพระเจ้าก็เชื่อก็อีกอย่างนึงส่วนคนที่เชื่อทางวิทยาศาสตร์ก็มีความคิดไปอีกอย่างหนึ่งแล้วคุณจะเชื่ออะไรก็แล้วแต่คุณชัยวิจารณญาณในการอ่านและคิด
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก ตีพิมพ์รายละเอียดของงานวิจัยข้างต้นลงในวารสาร Science Advances โดยระบุว่าได้วิเคราะห์หินอุกกาบาต 31 ก้อน รวมถึงอุกกาบาต NWA 7034 หรือ “ความงามสีดำ” (Black Beauty) ซึ่งถูกค้นพบที่ภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาด้วยระบุว่า ดาวเคราะห์สีแดงในยุคเริ่มก่อตัวเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน เต็มไปด้วยสารอินทรีย์และน้ำที่สามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตแรกของระบบสุริยะได้ ซึ่งในขณะที่เวลาเดียวกันโลกยังมีสภาพไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต
หินอุกกาบาต NWA 7034 มีฉายาว่า “ความงามสีดำ” (Black Beauty)
โดยหินอุกกาบาตข้างต้นล้วนเป็นชิ้นส่วนของดาวอังคารในยุคโบราณ พื้นผิวของดาวกระเด็นหลุดออกสู่ห้วงอวกาศ หลังถูกดาวเคราะห์น้อยจากรอบนอกของระบบสุริยะพุ่งชน และได้ตกลงมายังพื้นโลกในที่สุด
นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ธาตุไอโซโทปของโครเมียมตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบของหินอุกกาบาตดังกล่าว จนพบว่ามันคืออุกกาบาตจำพวก Carbonaceous chondrites ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของระบบสุริยะ และมีต้นกำเนิดมาจากแถบดาวเคราะห์น้อยอันไกลโพ้น โดยบ่งชี้ว่า ดาวอังคารในยุคเริ่มก่อตัว 100 ล้านปีแรก ถูกกระหน่ำพุ่งชนด้วยอุกกาบาตชนิดดังกล่าวจำนวนมหาศาล
ซึ่งอุกกาบาตนี้ได้นำพาสารอินทรีย์ที่สำคัญต่อการให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตมายังดาวอังคารด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดอะมิโนที่เป็นสารตั้งต้นของการผลิตสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ
นอกจากนี้อุกกาบาตประเภท Carbonaceous chondrites ยังมีน้ำแข็งเป็นองค์ประกอบอยู่ราว 10% เสมอ ทำให้ประมานการได้ว่าอุกกาบาตที่พุ่งชนดาวอังคารยุคโบราณ สามารถจะให้กำเนิดห้วงน้ำขนาดใหญ่ที่แผ่ปกคลุมพื้นผิวดาวทั้งหมด โดยมีความลึกถึง 307 เมตร
ดาวอังคาร (ภาพจาก NASA)
ทางด้าน ศาสตราจารย์ มาร์ติน บิซซาโร ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนบอกว่า “ในช่วงก่อกำเนิดระบบสุริยะราว 4,500 ล้านปีก่อน โลกและดาวอังคารได้ก่อตัวขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน โดยในช่วง 100 ล้านปีแรกของดาวเคราะห์ทั้งสอง ต่างก็ถูกอุกกาบาตที่มีน้ำและสารอินทรีย์ปะปนอยู่พุ่งชนในจำนวนมหาศาลเหมือน ๆ กัน”
“ในขณะที่เงื่อนไขดังกล่าวสามารถเอื้ออำนวยให้เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นบนดาวอังคารในตอนนั้น แต่สภาพการณ์บนโลกกลับตรงกันข้าม เนื่องจากโลกที่เพิ่งเกิดใหม่ชนเข้ากับดาวเคราะห์โบราณดวงหนึ่งในเหตุการณ์ที่ให้กำเนิดดวงจันทร์ จนทำให้สูญเสียสารอินทรีย์และน้ำที่สะสมไว้ในช่วงแรกไปจนหมด”
“ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เราสันนิษฐานได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สิ่งมีชีวิตชนิดแรกในระบบสุริยะจะเกิดขึ้นบนดาวอังคารก่อนดาวเคราะห์ดวงอื่น รวมถึงโลกของเราด้วย” ศาสตราจารย์ มาร์ติน บิซซาโร กล่าวสรุป