ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขุมทรัพย์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขุมทรัพย์ แสดงบทความทั้งหมด

กลุ่มนักล่าสมบัติต่างหูเหลือบอ้างกำลังเข้าใกล้ขุมทรัพย์มูลค่า 5 แสนล้านในตำนานฟินแลนด์



กลุ่มนักล่าสมบัติต่างหูเหลือบอ้างกำลังเข้าใกล้ขุมทรัพย์มูลค่า 5 แสนล้านในตำนานฟินแลนด์

หลายตำนานในแต่ละทวีปที่แตกต่างกันทั่วโลก มักมีการพูดถึงขุมทรัพย์ล้ำค่าที่ถูกฝังเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง และในประเทศฟินแลนด์ก็มีการบอกเล่าถึงขุมทรัพย์ในตำนานที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน ซึ่งมันคือสิ่งที่นักล่าสมบัติจำนวนมากต่างใฝ่ฝันว่าจะพบมันให้ได้

นักล่าสมบัติหลายคนต่างพยายามค้นหาไลน์แทงต่างๆใครดีใครได้ต่างแข่งขันกันเพื่อจะหาขุมทรัพย์5แสนล้านนี้ให้ได้

ย้อนกลับไปในปี 1987 กลุ่มนักล่าสมบัติที่รู้จักกันในชื่อ Temple Twelve ได้ใช้เวลาในทุก ๆ ฤดูร้อนเพื่อออกตามล่า Lemminkäinen Hoard ขุมทรัพย์ในตำนานที่ว่ากันว่าล้ำค่าที่สุดในโลก โดยอาจมีมูลค่าที่สูงถึง 500,000 ล้านบาท

เชื่อกันว่า Lemminkäinen Hoard ถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งภายใน Sibbosberg ถ้ำเขาวงกตที่อยู่ห่างจากเมืองเฮลซิงกิไปทางตะวันออกประมาณ 20 ไมล์ ตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน

แม้ว่าการมีอยู่ของขุมทรัพย์นี้จะไม่เคยถูกยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่บรรดานักล่าสมบัติเชื่อว่ามันประกอบไปด้วยอัญมณีกว่า 50,000 เม็ด เช่น ทับทิม ไพลิน มรกต และเพชร รวมถึงรูปปั้นมนุษย์ที่ทำจากทองคำ 18 กะรัตเท่าขนาดจริงจำนวนหลายชิ้น และสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ยุคโบราณกว่า 1,000 ชิ้นที่มีอายุนับพันปี



เรื่องราวของขุมทรัพย์ Lemminkäinen Hoard เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1984 เมื่อชายลึกลับที่ชื่อว่า เอียน บ็อค อ้างว่าครอบครัวของเขาเป็นทายาทสายตรงของ Lemminkäinen วีรบุรุษแห่ง Kalevala หนังสือมหากาพย์ที่รวบรวมเรื่องเล่าตามตำนานมากมายของชาวฟินแลนด์ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็เหมือนกับอีเลียดของกรีก และรามายณะของอินเดีย 

เอียนอ้างว่ามีห้องที่ถูกปิดผนึกบนที่ดินของเขามีขุมทรัพย์ที่เรียกว่า Lemminkäinen Hoard ซ่อนอยู่และครอบครัวของเขามีหน้าที่ปกปักรักษาสมบัตินี้จากผู้บุกรุกมานานหลายศตวรรษ และเขาต้องออกมาบอกความลับนี้เพราะไม่ต้องการให้มันตายไปพร้อมกับเขา


เอียน บ็อคใช้เวลาตามหาขุมทรัพย์นี้มานานนับสิบปี จนกระทั่งเขาจากโลกนี้ไปในปี 2010 การตามล่าสมบัติยังคงดำเนินต่อไปภายในเครือข่ายถ้ำที่เขาอ้างว่าเป็นที่เก็บรักษาขุมทรัพย์ในตำนาน

ถึงแม้จะมีการสำรวจอย่างเป็นทางการนับไม่ถ้วนโดยนักล่าสมบัติกว่า 100 ชีวิต แต่ก็ยังไม่มีใครค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่านี้

ส่วนกลุ่มนักล่าสมบัติที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ Temple Twelve ที่อุทิศชีวิตในการออกล่า Lemminkäinen Hoard มานานกว่า 34 ปี แต่ปัญหาคือพวกเขาสามารถใช้เวลาออกล่าสมบัติได้ในเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น เนื่องจากช่วงเวลาที่เหลือเครือข่ายถ้ำจะเต็มไปด้วยน้ำฝนที่เย็นจัด


ต้นกำเนิดของกลุ่ม Temple Twelve ประกอบด้วยชาย 12 คนและหญิง 12 คนที่มาจากฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย รัสเซีย อเมริกา และเยอรมนี โดยไม่มีคนที่มีประสบการณ์ทางโบราณคดีแต่อย่างใด พวกเขาใช้เครื่องมือช่างพื้นฐานทำงานร่วมกับ เอียน บ็อค เพื่อสำรวจถ้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้

ตลอด 34 ปีที่ผ่านมา สมาชิกดั้งเดิมของ Temple Twelve ได้ล้มหายตายจากกันไปบ้าง โดยเหลือสมาชิกดั้งเดิมเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น แต่สมาชิกคนใหม่ ๆ ที่เข้าร่วมกลุ่มของพวกเขาต่างก็มีอุดมการณ์แรงกล้าไม่แพ้กัน


และตอนนี้พวกเขาเชื่อว่ากำลังเข้าใกล้ขุมทรัพย์ในตำนานนี้แค่เพียงไม่กี่ก้าว หลังจากที่พวกเขานำหินขนาด 4 ตันออกจากถ้ำได้ และขุดค้นหินตะกอนไปแล้วกว่า 400 ตัน ทั้งหมดนี้ขวางทางห้องโถงถ้ำที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นจุดเก็บสมบัติอันล้ำค่าเอาไว้

แต่พวกเขาต้องรอจนถึงปีหน้ากว่าที่จะสามารถเข้าไปขุดค้นหาถึงห้องสุดท้ายได้สำเร็จ นอกจากนั้นทางกลุ่มยังต้องสูบน้ำออกจากถ้ำถึง 1.5 ล้านลิตรในแต่ละปีอีกด้วย เรียกได้ว่าพวกเขาไม่ได้มากันเล่น ๆ เพราะมันคือการทุ่มทุนอันมหาศาลเพื่อแลกกับความเชื่อที่กำลังจะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ในเร็ววันนี้
ที่มา : dailymail | odditycentral

พบ ขุมทรัพย์ของจอมเวทนับร้อยที่เมืองปอมเปอี


พบ “ขุมทรัพย์ของจอมเวท” นับร้อยที่เมืองปอมเปอี คาดถูกใช้ในพิธีกรรมการเจริญพันธุ์

ตั้งแต่ที่ภูเขาไฟวิสุเวียเกิดปะทุขึ้นและฝังเมืองปอมเปอีเอาไว้ใต้เถ้าภูเขาไฟร้อนระอุ เวลาก็ได้ผ่านเลยไปเกือบๆ 2,000 ปีแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ตามเมืองโบราณอย่างปอมเปอีก็ยังคงมีเรื่องให้เราแปลกใจได้เสมอจริงๆ


นั่นเพราะเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง ทีมนักโบราณคดีผู้ดำเนินการขุดค้นเมืองแห่งนี้ ได้มีการออกมารายงานการค้นพบวัตถุโบราณชุดใหม่ในพื้นที่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้พวกเขาได้ทำการค้นพบ “ขุมทรัพย์ของจอมเวท” กว่าร้อยชิ้นเลย


วัตถุโบราณที่ถูกพบในครั้งนี้ถูกค้นพบในระหว่างการขุดค้นหนึ่งในบ้านสวนของเขต “Regio V” ในเมืองปอมเปอี โดยถูกเก็บเอาไว้ในกล่องไม้ที่ในปัจจุบันถูกย่อยสลายไปจนเหลือแค่บานพับ ก่อนที่จะถูกปิดผนึกไว้อีกครั้งด้วยเถ้าภูเขาไฟ

ภายในซากของกล่องไม้ นักโบราณคดีได้พบกับวัตถุโบราณขนาดเล็กนับร้อยชิ้น ซึ่งรวมไปถึงกระดุมที่ทำจากกระดูก แมลงปีกแข็งแกะสลัก ปลัดขิกจิ๋ว แผ่นคริสตัล หัวกะโหลกขนาดย่อมๆ และตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อยจำนวนมาก


วัตถุโบราณเหล่านี้ เชื่อกันว่าในอดีตอาจเคยถูกใช้ในพิธีกรรมหรือการทำนาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความรักและการเจริญพันธุ์มาก่อน และจากการที่ของเหล่านี้ไม่มีชิ้นไหนเลยที่ทำจากวัสดุมีค่าอย่างเงินหรือทอง นักโบราณคดีก็สันนิษฐานว่าของที่พบอาจจะไม่ใช่ของเจ้าของบ้านเอง แต่เป็นของทาสหรือคนใช้ในบ้านมากกว่า

อ้างอิงจากทีมสำรวจ พวกเขาคาดว่าเจ้าของวัตถุโบราณที่พบน่าจะเสียชีวิตไปในตัวบ้านเอง เนื่องจากในพื้นที่ใกล้ๆ กับวัตถุโบราณ นักโบราณคดีก็ยังมีโอกาสค้นพบห้องที่ภายในมีร่างของเหยื่อจำนวน 10 คนเสียชีวิตอยู่ด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในเหยื่อเหล่านี้อาจจะเป็นเจ้าของวัตถุโบราณที่พบก็เป็นได้


ทั้งนี้เองในปัจจุบันนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีก็กำลังทำการตรวจสอบวัตถุโบราณที่พวกเขาพบเพิ่มเต็ม เพื่อทำความเข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของพวกมันต่อไปอยู่

และเมื่อการตรวจสอบจบลง พวกเขาก็มีแผนการที่จะนำวัตถุโบราณที่พบไปจัดแสดงไว้ที่ “Palestra Grande” อดีตสนามกรีฑาของปอมเปอีซึ่งในปัจจุบันถูกใช้เป็นที่จัดแสดงวัตถุโบราณที่ถูกพบในเมืองต่อไป

พบขุมทรัพย์รถคลาสสิกมูลค่า 600 ล้าน


🚗พบขุมทรัพย์รถคลาสสิก
มูลค่า 600 ล้าน…ถูกค้นพบ
ในโรงนาที่ฝรั่งเศสที่ปิดตาย
50 ปี!!

🚐บอกได้เลยว่าสำหรับคนรักรถ ‘รถคลาสสิก’ ในช่วงปี 1950-1970 ถือเป็นดั่งรุ่นในฝันที่นักสะสมออกไล่ล่าหามาช้านานแล้ว เพราะมันเลิกผลิตไปนานแล้ว อีกทั้งยังล้ำค่าสุดขั้ว!!!


👉แต่ล่าสุดลูกของ
Roger Baillon อดีตนักธุรกิจ
ที่ตายไปเมื่อ 10 ปีก่อนก็ได้บังเอิญค้นพบขุมทรัพย์รถคลาสสิกล้ำค่าในไร่ที่ถูกทิ้งร้างของพ่อ ซึ่งรถเหล่านี้ถูกซ่อนมาในโรงนาปิดตายนานกว่า 50 ปีแล้ว และไม่เคยมีใครรู้ว่าพวกมันมีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ

👉ซึ่งรถที่ถูกค้นพบมีตั้งแต่ Ferrari รุ่นเก๋า และรถในตำนานของ Maserati

หรือแม้กระทั่งรถโคตรคลาสสิกที่ครั้งหนึ่งกษัตริย์แห่งอียิปต์อย่าง Farouk เคยขับ 

👉โดยรถทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่อยู่ในยุค 1950-1970 และนักสะสมที่เห็นข่าวนี้
ก็ตีมูลค่าออกมาเลยว่าโรงนาแห่งนี้น่ะสามารถเรียกเงินได้
สูงถึง 12,000,000 ปอนด์
(ราว 600,000,000 บาท)
ได้สบายๆ (ลาภลอยของแท้เลยนะเนี่ย)

อย่างไรก็ตามทางครอบครัวก็ยังไม่เผยว่าจะขายออกมาหรือไม่ หรืออาจจะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่พ่อของตนเนื่องจากขุมทรัพย์รถเหล่านี้หาไม่ได้จากที่ไหนในโลกอีกแล้ว


รายการบล็อกของฉัน

  • เทคนิคแก้ปัญหากลิ่นปาก - ค้นหา *เทคนิคแก้ปัญหากลิ่นปากให้ถูกทาง* น่าจะเคยเป็นกันบ้างที่เวลาจะพูดกับใคร เรามักจะไม่มั่นใจในกลิ่นปากและลมหายใจของเรา จึงทำให้ไม่มั่นใจในการสนทนาเท่า...
    2 เดือนที่ผ่านมา
  • ว่านดอกทองแปลกที่กลิ่นคล้ายน้ำอสุจิ - ว่านดอกทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma spp. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ค้นหา สมุนไพรว่านดอกทอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ว่านมหาเสน่ห์ (รากราคะ, ว่านร...
    2 เดือนที่ผ่านมา
  • มนุษย์จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวภายในสิ้นศตวรรษนี้ - มนุษย์จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวภายในสิ้นศตวรรษนี้ นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีและนักอนาคตอย่าง Michio Kaku ได้เคยกล่าวกับ Redditers ไว้เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็...
    3 เดือนที่ผ่านมา
  • การเลือกซื้อเสื้อกันหนาว มือ 2มาใช้ - Two Hand sweaters *จากสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขึ้น *ส่งผลให้เสื้อกันหนาวมือสองกำลังได้รับความนิยมอย่างคึกคัก โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย เพราะเสื้อ 1 ตัวนั้...
    3 ปีที่ผ่านมา
  • ระยะห่างในการรับชม TV ที่เหมาะสม - *สาระน่ารู้ระยะห่างในการรับชมที่เหมาะสม * *และ จะซื้อ LED TV ใหญ่ขนาดไหนดีนะเรา ?* สวัสดีครับทุกท่าน ผมเชื่อว่าตอนนี้ยังมีหลายๆท่านยังเค้าใจผิดคิดว่า ยิ่งจอ ...
    11 ปีที่ผ่านมา