วันนี้เน้นบทความลึกลับๆซับซ้อนครับอะไรๆที่มันแปลกๆอยู่เหนือความคาดหมายของมนุษย์แล้วเป็นอะไรที่ยังหาคำตอบไม่ได้..เราจะหามานำเสนอให้คุณๆได้ทราบจะสรรหามาให้คุณอ่านกันเราเน้นคุณภาพครับไม่ได้เน้นปริมาณ...
👉🏿อัลมาส์ หรือ อัลมาตี"คนป่า"สิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่ามีรูปร่างคล้ายมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
🙄ดูจากรูปร่างแล้วมันไม่น่าจะใช่ลิงยักษ์ลิงป่าแต่อาจจะเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างผิดปกติตัวใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปมีหลายๆประเทศที่ข้อมูลตรงกันหรือมีตำนานเล่าขานที่คล้ายๆกันเกี่ยวกับ"คนป่า" ลึกลับ อัลมาส์ หรือ อัลมาตี ไม่ให้เสียเวลาในการอ่านบทความนี้เรามาเข้าเรื่องราวกันเลยดีกว่าครับ
😬อัลมาส์ หรือ อัลมาตี (อังกฤษ: Almas; Almasty, Almasti; บัลแกเรีย: Алмас; เชเชน; Алмазы, ตุรกี: Albıs; มองโกล: Алмас; ภาษามองโกลแปลว่า "คนป่า") สิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่เชื่อว่ามีรูปร่างคล้ายมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ พบตามเทือกเขาและป่าในภูมิภาคเอเชียกลาง รวมถึงไซบีเรีย มีลักษณะคล้าย เยติ ในเทือกเขาหิมาลัย และ บิ๊กฟุต ในทวีปอเมริกาเหนือ
🥺ลักษณะ
อัลมาส์ ถูกระบุว่ามีท่าทีการเดินคล้ายมนุษย์ในยุคปัจจุบันมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นที่คล้ายคลึงกัน เช่น ซาสควาทช์ หรือ บิ๊กฟุต ร่างกายถูกคลุมด้วยหนังหนาสีน้ำตาล ขนสีน้ำตาลแดง ใบหน้าไม่มีขนปกคลุม ผิวมีสีเข้ม ,ฟันเหยินยื่นออกมา
นอกปาก อวัยวะสืบพันธุ์ใหญ่ยาวเป็นดุ้นเป็นลำ สำหรับ"คนป่า" ลึกลับ อัลมาส์ หรือ อัลมาตี สังเกตได้ชัดเจน สันหน้าผากโหนก, เฉียงหน้าผากจมูกแบนและใหญ่โหนกกราม เฉียงหน้าผากจมูกแบนและใหญ่โหนกกราม
🦶เท้ามีขนาดใหญ่และมือยาว มีขนปกคลุมทั่วร่างยกเว้นมือและเท้า มีกลิ่นตัวเหม็น รวมถึงมีผู้พบเห็นว่าเหมือนกับสวมใส่สิ่งดูเหมือนหนังสัตว์เหมือนเสื้อคลุมเพื่อป้องกันความหนาวเย็นด้วย
😱ถูกค้นพบ
อัลมาส์ นั้นปรากฏอยู่ในภูมิปัญญาของชาวมองโกลมานานแล้ว โดยปรากฏเป็นชื่อและภาพในหนังสือของธิเบตที่รวบรวมพรรณพืชและพรรณสัตว์ท้องถิ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19
แต่ทว่าอัลมาส์เป็นรู้จักของชาวโลกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1427 โดยคำว่า "อัลมาส์" เป็นภาษามองโกลซึ่งแปลว่า "คนป่า" ในขณะที่ชื่อ อัลมาสตี เป็นภาษารัสเซีย เป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งป่าที่ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันตก เช่น จอร์เจีย, อาร์มีเนีย รายงานล่าสุดของการพบเห็นอัลมาส์อยู่ที่ตอนใต้ของมองโกเลียและรัสเซียแถบเทือกเขาอัลไต รวมถึงไซบีเรีย และเทือกเขาเทียนซานในชายแดนตอนเหนือของจีน
👉🏿ซึ่งในแถบเทือกเขาเทียนซานในแถบคาซักสถาน ชาวพื้นเมืองที่นี่เรียกสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่เหมือนกับอัลมาส์ว่า คียิกอดัม (Kiyik Adam) เชื่อว่ามีความสูงถึง 9 ฟุต มีขนดกปกคลุมลำตัวสีดำหรือสีเทาเข้ม มีรอยเท้าที่ยาวถึง 15 นิ้ว และมีเขี้ยวแหลมคมไว้สำหรับฉีกทึ้งเหยื่อสำหรับเป็นอาหาร
🌀อัลมาส์เมื่อแรกถูกบันทึกถึง ไม่ใช่บันทึกในลักษณะของสัตว์ประหลาดคล้ายมนุษย์ หากแต่บันทึกถึงความที่คล้ายคลึงกับสัตว์ในอันดับไพรเมทชั้นเดียวกับมนุษย์ เช่น อุรังอุตัง, กอริลลา หรือชิมแปนซี ซึ่งอัลมาสมีลักษณะคล้ายมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลที่เคยอาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้เมื่อกว่า 350,000 ปีก่อน
😬อัลมาส์ยืนตรงด้วยสองขาหลัง มีความสูงประมาณ 5 ฟุต และตัวเต็มวัยอาจสูงถึง 6–6.5 ฟุต หรือ 9 ฟุต และมีขนาดเท้าที่ใหญ่ถึง 5 ฟุต จากรอยเท้าบนหิมะ
😄การรายงาน
อัลมาส์ ถูกรายงานอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1964 โดย ศาสตราจารย์ด้านมนุษยวิทยาชาวรัสเซีย ศาสตราจารย์ บอริส พอร์ชเนฟ โดย ศ.พอร์ชเนฟ บันทึกว่า กะโหลกศีรษะของอัลมาสเป็นทรงกรวยและมีโครงสร้างของฟันคล้ายมนุษย์ และ ศ.พอร์ชเนฟยังได้รายงานต่อว่า อัลมาส์อาศัยอยู่เป็นครอบครัว มีกลิ่นตัวเหม็น กินอาหารจำพวก ผลไม้, ผัก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก
😬อัลมาส์ เป็นสัตว์ที่เร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยเดินทางกว่าครึ่งของมองโกเลีย พวกมันถูกพบเห็นโดยชาวบ้านและชนพื้นเมือง รายงานการพบเห็นเมื่อ 50 ปีก่อน ถูกพบที่เทือกเขาคอเคซัสใกล้รัสเซียและทะเลดำ โดยพบหลักฐานการมีอยู่ของครอบครัวอัลมาส์ และยังมีอีกหนึ่งรายงานในเทือกเขาพาเมียร์ของเอเชียกลาง
👉🏿ได้มีนักวิชาการผู้ทำการค้นหาอัลมาส์อย่างจริงจัง คือ นักสัตว์ประหลาดวิทยาชาวรัสเซีย ดร.มารีน-เจน ค็อฟแมน และ ซิลเวียน พัลลิกซ์ ชาวฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1992 ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการสำรวจก็คล้ายคลึงกับของ ศ.พอร์ชเนฟ คือ อัลมาส์เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ น้ำหนักกว่า 500 ปอนด์ มีขนดก หากินในเวลากลางคืน และสามารถเดินทางได้เร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง โดย ดร.ค็อฟแมนสามารถเก็บตัวอย่างขน, รอยเท้า และมูลของอัลมาส์ได้ด้วย
จากภาพวาด"คนป่า" ลึกลับ อัลมาส์ หรือ อัลมาตี จากจินตนาการ ที่มีผู้ค้นพบเห็นนี้มองดูๆแล้ว ผมคิดว่าหน้าเหมือนกับ ลุงตู่ ลุงประวิทย์ หน้าคล้ายกันจริงๆเลย
😁สรุปสัตว์ลึกลับตัวนี้ไม่น่าจะเป็นลิงหรือเยติหรืออะไรแต่มันน่าจะเป็นคนที่มีรูปร่างผิดปกติหรือมนุษย์โบราณสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้นะครับเพราะส่วนใหญ่ประเทศเรานั้นที่พบเจอจะอยู่ห่างไกลความเจริญอาจจะไม่มีคนเข้าไปถึงรบกวนสัตว์ประหลาด"คนป่า" ลึกลับ อัลมาส์ หรือ อัลมาตี ตัวนี้ก็ได้นะครับ
👉🏾มีคลิปวีดีโอจากต่างประเทศมาให้ชมเพื่อประกอบบทความนะครับมันจะได้มีข้อมูลอ้างอิงมากยิ่งขึ้น