ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

มารี ลาโว แม่มดวูดู ผู้เป็นตำนานแห่งไสยศาสตร์ตะวันตก

มารี ลาโว แม่มดวูดู ผู้เป็นตำนานแห่งไสยศาสตร์ตะวันตก


ถ้าพูดถึงไสยศาสตร์ หลายๆ คนคงนึกถึงประเทศในแถบบ้านเรา โดยเฉพาะประเทศเขมร และประเทศไทย ที่ดูจะเชื่อเรื่องราวของไสยศาสตร์มากกว่าประเทศอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วไสยศาสตร์นั้น มีอยู่แทบทุกประเทศทั่วโลก แต่มันถูกแปรเปลี่ยนไปตามความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ


แม่มดหรือนักบุญ! ตามหาความจริงของราชินีวูดูแห่งเมืองนิวออร์ลีนส์กัน
พี่แนนนี่เพน - Columnist


แม่มดหรือนักบุญ!
ตามหาความจริงของราชินีวูดูแห่งเมืองนิวออร์ลีนส์กัน 

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน หากจะพูดถึงตำนานแม่มดที่ถูกเล่าขานกันมานาน เชื่อได้เลยว่าชื่อของ มารี ลาโว (Marie Laveau) ต้องติดท็อปราชินีแม่มดอันดับต้นๆ ที่ผู้คนนึกกันมากที่สุดแน่ๆ เพราะเธอได้รับฉายาว่าเป็นราชินีวูดูแห่งเมืองนิวออร์ลีนส์ จนถูกนำไปสร้างเป็นหนัง เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ และยังทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเมืองของราชินีแม่มดกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย คนที่ไปเที่ยวนั้นก็มีจุดประสงค์แตกต่างกันไป บ้างก็ไปเพื่อเยี่ยมชมเคารพหลุมศพของแม่มดที่น่ากลัวที่สุดแห่งยุค บ้างก็ไปเพื่อบนบานขอให้เธอช่วยสาปแช่งศัตรูให้หน่อย ซึ่งพี่แนนนี่เพนก็อยากเอาเรื่องราวของเธอมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง พร้อมจุดประเด็นให้ทุกคนได้คิดตามกันว่า จริง ๆ แล้วมารี ลาโว เป็นคนชั่วร้าย และลึกลับเหมือนที่เรารู้กันจริงหรือเปล่า!?

มารี ลาโว 
 
มารี ลาโว (Marie Laveau) หรือ ราชินีวูดูแห่งเมืองนิวออร์ลีนส์ เธอมีชื่อเสียงในด้านการใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำจนเป็นที่เลื่องลือไปแล้วทั่วโลก สุสานของเธอในนิวออร์ลีนส์ ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง เพราะผู้คนที่เชื่อในเรื่องลี้ลับต่างเดินทางมายังสุสานเพื่อเยี่ยมชม และทำพิธีสาปแช่งโดยการเคาะบนโลงศพของมารี 3 ครั้ง แล้วหมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน จากนั้นเปล่งชื่อของมารีออกมาดังๆ และบอกจุดประสงค์ของการทำพิธี เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นการทำพิธีกรรมแล้วค่ะ

หากถามว่าทำไมผู้คนจึงเชื่อในเรื่องราวของมารี ลาโวที่ถูกเล่าขานส่งต่อกันมา ต้องขอเล่าย้อนไปตั้งแต่สมัยที่เมืองนิวออร์ลีนส์ยังมีการค้าทาสชาวผิวดำนู่นเลยค่ะ ในประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ วูดูเป็นพิธีกรรมสำคัญที่มีที่มาจากการผสมผสานระหว่างศาสนาในแอฟริกาตะวันตกที่ถูกนำมาใช้โดยทาสศาสนาคริสต์ จนกลายเป็นประเพณีของชนพื้นเมืองที่ค่อยๆ ผสมผสานกันจนเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งครอบครัวของมารีก็สืบทอดพิธีกรรมเหล่านี้มาทางสายเลือดด้วย โดยเรื่องราวของมารี ลาโวได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1801 ซึ่งสมัยนั้นชาวอเมริกันผิวสีตกเป็นทาสกันเยอะมาก ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวตระกูลลาโว โดยหลังจากตระกูลลาโวเผชิญการเป็นทาสมาแล้วหลายรุ่น มารีก็ได้กลายเป็นทายาทคนแรกของตระกูลลาโวที่ได้รับอิสรภาพจากการเป็นทาส และกลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์

มารีเป็นชาวคริสเตียนที่ศรัทธาในศาสนาเป็นอย่างมาก ทั้งยังรับลัทธิวูดูของตระกูลมาสืบทอดอีก ทำให้เธอกลายเป็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ผู้อื่นได้ รวมถึงการประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ ให้ชาวบ้านที่นับถือในลัทธิวูดูอีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้กลายเป็นผู้ทำพิธีและผู้นำลัทธิวูดู จนกลายเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนจำนวนมากเลยค่ะ   เรามาดูสิ่งที่ มารี ลาโว ทำจนได้ชื่อว่ากลายเป็นแม่มดแห่งยุค และเป็นดังนักบุญของชาวผิวสีกันค่ะ 
 

แท่นบูชาสำหรับทำพิธีกรรม

ผู้นำที่น่านับถือของลัทธิวูดู

มารี ลาโว เป็นชาวคาทอลิกที่อุทิศตนมาตลอดชีวิต และลัทธิวูดูของเธอไม่ได้ขัดกับศรัทธาคาทอลิกของเธอ ห้องด้านหน้าของกระท่อมที่เธออาศัยอยู่ มีแท่นบูชาที่เต็มไปด้วยเทียน ภาพศักดิ์สิทธิ์ และเครื่องเซ่นไหว้ ทุกสัปดาห์มารีจะเป็นผู้นำการประชุม (รวมทั้งคนผิวขาวและคนผิวดำ) ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องแต่งกายด้วยชุดสีขาวแล้วสวดมนต์ และร้องเพลง ทั้งยังงดดื่มสุราและอาหารด้วย ในกระท่อมของมารีจะเปิดให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกคน ตั้งแต่ให้คำปรึกษาด้านความรัก ด้านกฎหมาย การค้าขาย และปัญหาชีวิตทั่วไป ทำให้เธอกลายเป็นคนสำคัญของชุมชนผิวสี และกลายเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ด้วยการเป็นผู้นำที่น่านับถือของลัทธิวูดู

 

พิธีกรรมวูดูที่มีแต่เรื่องชั่วร้าย

ด้วยศาสตร์ของวูดูที่ทำให้ผู้คนจดจำกันในด้านร้ายๆ โดยเฉพาะเรื่องการสาปแช่ง และพิธีกรรมที่ใช้เลือด(คนและสัตว์) เป็นเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งยังมีตุ๊กตาวูดูที่เหล่าหมอผีในยุคสมัยก่อนนิยมนำมาทำไสยศาสตร์ หรือคุณไสยเพื่อทำร้ายคนอื่น อย่างการเอาเข็มจิ้ม หรือสาปแช่งให้เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากศาสตร์ของวูดูทั้งสิ้น ทำให้พิธีกรรมต่างๆ มีจุดประสงค์ที่มุ่งร้าย และใครก็ตามที่เคารพนับถือในศาสตร์ของวูดูล้วนถูกมองในแง่ลบ เป็นแม่มด เป็นภูติผีที่คอยทำร้ายผู้อื่น ขณะเดียวกันผู้ที่ใช้ศาสตร์ของวูดู ก็จะได้รับการยกย่องจากผู้นับถือในศาสตร์เดียวกันนั่นเองค่ะ โดยมารีได้ผสมผสานศาสตร์ของวูดูเข้ากับคำสอนของคาทอลิก ทำให้เธอเป็นผู้ทรงความรู้ และน่าเลื่อมใสของผู้คนในลัทธิวูดูมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

แม่มดวูดูจอมขมังเวทย์

อย่างที่เล่าไปว่ามารีมีอิทธิพลต่อชาวลัทธิวูดูมาก ทำให้ผู้เลื่อมใสเล่าลือกันว่า เธอเป็นแม่มดวูดูที่มีอิทธิฤทธิ์เก่งกล้าที่สุด บ้างก็ว่าเธอสามารถสาปได้ทั้งคนและสัตว์ โดยใช้มนต์ดําของวูดู ทั้งยังมีคนเชื่อว่าเธอเต้นรำกับงู และทำพิธีกรรมลึกลับ เพื่อเพิ่มอำนาจไสยศาสตร์อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าลือว่ามารีสามารถนำศาสตร์การขอพรจากพระเจ้ามาประยุกต์ใช้กับศาสตร์มืดของวูดูอีกด้วย โดยเธอทำพิธีกรรมใส่ลงในเครื่องรางต่างๆ เมื่อมีคนมาบูชานำไปใช้ได้ไม่นาน สิ่งที่ขอล้วนปรากฏเห็นผลทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ทำให้ชื่อเสียงของเธอเลื่องลือไปถึงชาวผิวขาว ทั้งยังมีเหตุการณ์ที่เธอร่ายมนต์ และอมพริกที่เผ็ดที่สุดสามลูกไว้ในปากเป็นเวลากว่าสามชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาตัดสินคดีของลูกชายคหบดีคนหนึ่ง จนทำให้ศาลยกฟ้องและปล่อยตัวชายผู้นั้นออกมา ทำให้ชื่อเสียงของมารี ลาโ โด่งดังไปทั่วทั้งเมืองเลยค่ะ 


โล่ประกาศเกียรติคุณที่หลุมฝังศพของราชินีแห่งวูดู
 
นักบุญของชาวผิวสี

อาจเพราะมารี ลาโวสามารถหลุดพ้นจากการเป็นทาสได้ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเธอแตกต่าง และเป็นตัวอย่างของชาวผิวสีที่สามารถสร้างฐานะขึ้นมาได้ ทำให้ในประวัติศาสตร์มีบันทึกถึงมารีว่าเป็นจิตอาสาที่คัญคนหนึ่งของเมืองนิวออร์ลีนส์เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากประวัติการใช้มนต์คาถาแล้ว เธอได้ทำหน้าที่เป็นพยาบาลอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากอยุ่เป็นประจำ ทั้งยังช่วยจ่ายค่าประกันตัวแก่สาวผิวสีในชุมชนให้เป็นอิสระ และยังแบ่งเวลาจากการทำจิตอาสาต่างๆ เข้าไปเยี่ยมนักโทษที่กำลังจะถูกประหาร และคอยสวดภาวนาเป็นเพื่อนพวกเขาก่อนถึงช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตอีกด้วย 

 

. . . . . .

ไม่ว่ามารี ลาโว จะเป็นแม่มดวูดูที่มีอิทธิฤทธิ์เก่งกล้าที่สุด หรือเป็นนักบุญที่มีเมตตาต่อผู้อื่น สิ่งที่พี่แนนนี่สังเกตเห็นก็คือ เธอมีวัฒนธรรมและรู้จักผู้คนเป็นอย่างดีค่ะ เธอสามารถนำความเชื่อลัทธิวูดูผสมผสานกับศาสนาด้านขาว และก่อพิธีกรรมที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ทั้งในด้านสว่างที่เธออาศัยความเชื่อ และจิตใจของมนุษย์มาเพิ่มความศรัทธาให้กับสิ่งที่เธอทำ รวมถึงด้านมืดที่เธออาจจะทำจริงหรือไม่จริงก็ได้ ทำให้ผู้คนที่คิดร้ายไม่กล้าเข้ามาทำร้ายเธอโดยตรง ซึ่งไม่ว่าท้ายที่สุดเธอจะเป็นแม่มดที่สาปแช่งผู้อื่น หรือเป็นนักบุญผู้มีจิตอาสา ชื่อของ มารี ลาโว ก็ได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ และบันทึกในใจของชาวผิวดำ ทั้งในเรื่องอิสระจากการเป็นทาส และการเป็นผู้นำของลัทธิวูดูที่เคยเก่งกล้าที่สุดคนหนึ่ง

รายการบล็อกของฉัน

  • เทคนิคแก้ปัญหากลิ่นปาก - ค้นหา *เทคนิคแก้ปัญหากลิ่นปากให้ถูกทาง* น่าจะเคยเป็นกันบ้างที่เวลาจะพูดกับใคร เรามักจะไม่มั่นใจในกลิ่นปากและลมหายใจของเรา จึงทำให้ไม่มั่นใจในการสนทนาเท่า...
    3 เดือนที่ผ่านมา
  • ว่านดอกทองแปลกที่กลิ่นคล้ายน้ำอสุจิ - ว่านดอกทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma spp. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ค้นหา สมุนไพรว่านดอกทอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ว่านมหาเสน่ห์ (รากราคะ, ว่านร...
    3 เดือนที่ผ่านมา
  • มนุษย์จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวภายในสิ้นศตวรรษนี้ - มนุษย์จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวภายในสิ้นศตวรรษนี้ นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีและนักอนาคตอย่าง Michio Kaku ได้เคยกล่าวกับ Redditers ไว้เมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็...
    4 เดือนที่ผ่านมา
  • การเลือกซื้อเสื้อกันหนาว มือ 2มาใช้ - Two Hand sweaters *จากสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นขึ้น *ส่งผลให้เสื้อกันหนาวมือสองกำลังได้รับความนิยมอย่างคึกคัก โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย เพราะเสื้อ 1 ตัวนั้...
    4 ปีที่ผ่านมา
  • ระยะห่างในการรับชม TV ที่เหมาะสม - *สาระน่ารู้ระยะห่างในการรับชมที่เหมาะสม * *และ จะซื้อ LED TV ใหญ่ขนาดไหนดีนะเรา ?* สวัสดีครับทุกท่าน ผมเชื่อว่าตอนนี้ยังมีหลายๆท่านยังเค้าใจผิดคิดว่า ยิ่งจอ ...
    11 ปีที่ผ่านมา