ประเพณีBagwalที่แปลกประหลาดปาหินใส่กันในอินเดีย ที่มาจากตำนานชนเผ่าทั้ง 4 ทำสัญญาเพื่อขับไล่ปีศาจ
บางทีประเพณีแปลกๆบางทีก็อาจจะทำให้คนบ้าคลั่งโดยเฉพาะประเพณีนี้มีที่ไหนเอาหินมาปาใส่กันเพื่อไล่ปีศาจแต่ปาหินใส่หัวกันเอง หัวหูแตกจะเอาเลือดคนสังเวยปีศาจ
มันเป็นความเชื่อที่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้แล้วและอีกอย่างหนึ่งเทพเจ้าพระเจ้าอะไรต่างๆมันก็ไม่มีจริงหรอกมนุษย์นี่แหละเป็นคนสร้างขึ้นมาเองเพื่อล้างสมองมนุษย์ด้วยกันเอง
ประเพณีBagwalที่แปลกประหลาดปาหินใส่กันในอินเดีย ที่มาจากตำนานชนเผ่าทั้ง 4 ทำสัญญาเพื่อขับไล่ปีศาจ
ในทุก ๆ ปี ชาวอินเดียจำนวนหลายร้อยคนจากรัฐอุตตราขัณฑ์จะเข้าร่วมการต่อสู้ที่ดุเดือดในงานประเพณี Bagwal ที่มักทำให้มีผู้คนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และบางคนถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาล
ประเพณี Bagwal มีความหมายคือ “การต่อสู้กันด้วยก้อนหิน” และนั่นทำให้งานประเพณีนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากการปาก้อนหินใส่กันเท่านั้น
ชาวบ้านจาก 4 ชนเผ่าจะมารวมตัวกันที่เมืองจำปาวัฒน์ ของรัฐอุตตราขัณฑ์ เพื่อมาขว้างปาก้อนหินใส่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่ได้หวั่นเกรงว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกแต่อย่างใด
อันที่จริงแล้วเลือดถือเป็น “เป้าหมาย” ของประเพณี Bagwal โดยอ้างอิงจากตำนานเกี่ยวกับเทพฮินดูนามว่าวาราฮีได้ทำข้อตกลงกับมนุษย์ว่า เธอยินยอมขับไล่ปีศาจผู้บุกรุกออกไป ถ้ามนุษย์ยอมสังเวยเลือดเป็นการแลกเปลี่ยน
ตามตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเมืองจำปาวัฒน์เคยถูกปีศาจรุกรานจนชาวบ้านไม่สามารถหาวิธีขับไล่พวกมันไปได้ ชนเผ่าท้องถิ่นทั้ง 4 ได้แค่ วาลิก, ชัมยาล, ลัมกาเรีย และ กาเฮอร์วัล ได้อธิษฐานต่อเทพวาราฮีเพื่อให้มาช่วยพวกเขาจากปีศาจเหล่านี้
เทพวาราฮีตกลงจะช่วยเหลือชาวบ้าน แต่พวกเขาต้องสังเวยมนุษย์ 1 คนให้กับเธอเป็นการแลกเปลี่ยนในแต่ละปี ดังนั้นชนเผ่าทั้ง 4 จึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสมาชิกในชนเผ่าของตัวเองให้กับเทพเจ้า
เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่ชนเผ่าหนึ่งต้องเสียสละเยาวชนคนสุดท้าย ย่าของเด็กชายได้สวดอ้อนวอนเพื่อขอให้ไว้ชีวิตเขา วาราฮีรับคำอธิษฐานและเธอเสนอทางเลือกให้กับชนเผ่าทั้งหมด
เงื่อนไขก็คือในวัน “ราคี” (Rakhi) ของแต่ละปี ชนเผ่าทั้ง 4 จะต้องขว้างปาก้อนหินใส่กันจนกว่าจะมีเลือดไหลออกมา นั่นคือวิธีที่สามารถทดแทนการสังเวยชีวิตของผู้คนแบบเดิมได้
ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าประเพณี Bagwal เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็ถูกดำเนินมาหลายร้อยปีแล้ว และลูกหลานของชนเผ่าทั้ง 4 ยังคงปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของบรรพบุรุษสืบต่อกันมา
ในปี 2013 เจ้าหน้าที่พยายามเสนอทางเลือกให้ผู้คนเหล่านี้ใช้ผลไม้หรือลูกยาง แต่กลับไม่มีใครเห็นด้วย ซึ่งพวกเขามองว่าการเสียสละด้วยเลือดยังคงต้องดำเนินต่อไป
สำหรับในปีนี้ การปาก้อนหินยังคงเกิดขึ้นเหมือนปกติ สิ่งที่น่ากังวลก็คือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ผู้ศรัทธาจำนวนหลายร้อยคนก็ยังคงปรากฎตัวเพื่อปาก้อนหินใส่ฝั่งตรงข้ามเหมือนเช่นเคย ที่น่าสนใจก็คือ ประเพณีปาก้อนหินนี้ถูกแบนโดยศาลสูงเมื่อหลายปีก่อน แต่ผู้เข้าร่วมประเพณีก็ไม่เคยสนใจ
การปาก้อนหินในปีนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 77 คน หลายคนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ ที่มักมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน
