ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

ซากลูกหมา 18,000 ปี ชี้รอยต่อวิวัฒนาการจากหมาป่าสู่หมาบ้าน


ซากของลูกสุนัขยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เหมือนกับเพิ่งตายลงได้ไม่นาน
ค้นหา
Custom Search
👨ทีมนักวิจัยจากศูนย์พันธุศาสตร์
บรรพชีวิน 
 (Center for Paleogenetics ) ของสวีเดน เปิดเผยว่าผลการตรวจดีเอ็นเอจากซากลูกสุนัขตัวผู้อายุเก่าแก่ถึง 18,000 ปี ซึ่งมีผู้ขุดพบในชั้นดินเยือกแข็งคงตัว (permafrost) ของรัสเซีย เมื่อฤดูร้อนของปีที่แล้ว ไม่สามารถชี้ชัดถึงชนิดพันธุ์หรือสปีชีส์ของมันได้ ซึ่งหมายความว่ามันเป็นสุนัขในสายพันธุ์ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่เคยรู้จักมาก่อน

👉ผลการตรวจสอบทางพันธุกรรมดังกล่าวทำให้มีการสันนิษฐานว่า ลูกสุนัขตัวนี้อาจเป็นบรรพบุรุษร่วมของหมาป่าและหมาบ้านยุคใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมา หรืออาจเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนวิวัฒนาการจากหมาป่าไปเป็นหมาบ้านก็เป็นได้

ส่วนหัวของซากลูกสุนัขขณะที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดเอา
เศษดินออก

🐈มีการค้นพบซากลูกสุนัขโบราณวัย 2 เดือนในสภาพสมบูรณ์ บริเวณใกล้กับแม่น้ำสายหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองยาคุตสค์ (Yakutsk)ในเขตไซบีเรีย เมื่อปี 2018 โดยมันยังมีขนฟู มีผิวหนังนุ่มนิ่มตรงจมูก รวมทั้งมีฟันและเขี้ยว ไปจนถึงขนตาและหนวดครบสมบูรณ์ เหมือนกับเพิ่งตายลงได้ไม่นาน

ส่วนหัวของซากลูกสุนัขขณะที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดเอาเศษดินออก

🐶มันอาจเป็นลูกหมาป่า
ในยุคน้ำแข็ง หรือเป็นสุนัขบ้านในยุคแรกเริ่ม หรือเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างขั้นตอนวิวัฒนาการของสุนัขสองชนิดนี้" ดร. เลิฟ ดาเลน หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว "แต่เราไม่แน่ใจว่ามันเป็นสุนัขเลี้ยงของมนุษย์ในยุคน้ำแข็งด้วยหรือไม่"

ซากลูกสุนัขจากยุคน้ำแข็ง ถูกพบในชั้นดินเยือกแข็งคงตัวของเขตไซบีเรีย

ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สุนัขบ้านหรือสุนัขสมัยใหม่วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่เป็นสุนัขป่า 
แต่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า สุนัขกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์เมื่อใดกันแน่ โดยงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์ในปี 2017 ระบุว่า อาจเป็นช่วง 20,000-40,000 ปีก่อน

รายการบล็อกของฉัน