
จากกรณีพบหลุมยุบยักษ์บนคาบสมุทรยามาลของไซบีเรีย อันกลายเป็นที่ฮือฮาปนตระหนกตกใจของชาวโลกอย่างมากเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสันนิษฐานต่าง ๆ ถึงสาเหตุของมัน ตั้งแต่เป็นที่จอดยูเอฟโอจากนอกโลก อุกกาบาตตก ถูกจรวดมิสไซล์ระเบิด เกิดการระเบิดของแก๊สจากแอ่งเก็บน้ำใต้ดิน (อ่านข่าว นักวิทย์เร่งไขปริศนา หลุมยุบยักษ์ผุดเป็นดอกเห็ดในรัสเซีย) และในตอนนี้นักวิทยาศสาตร์ได้ไขปริศการเกิดหลุมยุบยักษ์ได้กระจ่างแล้ว
![]() |
เว็บไซต์ไซบีเรียนไทมส์
เผยในรายงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ว่า ศาสตราจารย์วาซิลี่ โบโกยาฟเลนสกี้ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หัวหน้าทีมวิจัย ได้เฉลยสาเหตุการเกิดของหลุมยุบยักษ์ขนาดใหญ่ ที่ถูกตั้งชื่อว่าหลุม B-1 ว่า ในอดีตหลุมนี้เป็นเคยเป็นปิงโก (Pingo) หรือเนินดินซึ่งปกคลุมเบื้องล่างที่เป็นน้ำแข็ง อันพบได้มากในพื้นที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกเหนือย่อย ต่อมาน้ำแข็งใต้ดินเริ่มละลายจากความร้อนของพื้นพิภพ และก๊าซจากใต้ดิน รวมถึงก๊าซมีเทนที่ซึมผ่านขึ้นมาจากรอยแยกแผ่นดินบนคาบสมุทรนี้ แทรกซึมเข้าไปในแกนน้ำแข็งที่กำลังอยู่ในสภาพกึ่งละลาย และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็เกิดการระเบิดออกมา กลายเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ดังที่เห็น
ศาสตราจารย์วาซิลี่ยังกล่าวต่อไปว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาพบหลุมยุบยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นด้วยสาเหตุดังกล่าว เพราะปกติแล้ว ปิงโกจะกลายเป็นหลุมยุบเนื่องมาจากการละลายของน้ำแข็งจนผืนดินด้านบนทรุดตัวตามลงไป
ศาสตราจารย์วาซิลี่ยังกล่าวต่อไปว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาพบหลุมยุบยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นด้วยสาเหตุดังกล่าว เพราะปกติแล้ว ปิงโกจะกลายเป็นหลุมยุบเนื่องมาจากการละลายของน้ำแข็งจนผืนดินด้านบนทรุดตัวตามลงไป
![]() |
จากการตรวจสอบล่าสุดนี้ยังพบว่า หลุม B-1 มีความลึกถึง 60 เมตร จากการวัดด้วยอุปกรณ์เสียงสะท้อน อันลึกกว่าที่สามารถวัดได้ในช่วงแรก และตอนนี้ก็มีน้ำเอ่อนองอยู่ด้านก้นหลุม อันมาจากน้ำแข็งที่ละลายหลังหมดฤดูหนาว และกำลังเอ่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะปริ่มจนหลุมดังกล่าวกลายเป็นทะเลสาบไปอย่างสมบูรณ์ภายใน 10-20 ปี เมื่อถึงเวลานั้นคนรุ่นหลังอาจดูไม่ออกแล้วว่ามันเคยเป็นหลุมยุบ เนื่องจากปากหลุมที่ดิ่งชันจะถูกฝนและหิมะละลายกัดเซาะไป ฉะนั้นการศึกษาสำรวจหลุมยักษ์นี้ควรรีบทำให้เสร็จภายใน 1-2 ปีนับจากนี้ไป
![]() |
ศาสตราจารย์สันนิษฐานการก่อตัวของหลุม B-2 ว่า เดิมที่ตรงนี้เป็นปิงโกเช่นกัน แล้วก็กลายเป็นหลุมยุบด้วยกระบวนการปิงโกระเบิดเช่นเดียวกันกับ B-1 ผสานกับกระบวนการเกิดเนินพุโคลน (mud volcano) ซึ่งเกิดจากของเหลวและก๊าซที่ปลดปล่อยออกมาตามธรรมชาติ แต่การระเบิดนี้ไม่ได้มาจากปากทางหลักเพียงทางเดียว แต่ยังมีช่องปากทางย่อย ๆ อีก จึงเกิดเป็นหลุมยุบใหญ่ตรงกลาง แล้วมีหลุมย่อย ๆ กระจายอยู่โดยรอบอีก
ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งคือ ที่มาของก๊าซอันทำให้เกิดการระเบิดไม่ได้มาจากรอยแยกใต้ดิน แต่มาจากการระเหิดของก๊าซไฮเดรต (ก๊าซธรรมชาติที่เป็นน้ำแข็ง) ที่อยู่ใกล้ผิวดินมากกว่า
ทั้งนี้ทีมวิจัยมีความเห็นว่า ในตอนนี้ปรากฏการณ์หลุมปิงโกระเบิดยังไม่น่ากังวล แต่ก็ควรต้องเฝ้าสังเกตเอาไว้ เนื่องจากพื้นที่บนคาบสมุทรยามาลนี้เป็นแหล่งขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อาจส่งผลกับท่อส่งก๊าซหรือระบบโครงสร้างพื้นฐานได้