พบร่องลึกใต้’ล็อกเนส’ ฮือฮาแหล่งกบดานเนสซีสัตว์ประหลาดลึกลับ

ค้นหา

Custom Search

พบร่องลึกใต้’ล็อกเนส’ ฮือฮาแหล่งกบดาน’เนสซี’สัตว์ประหลาดลึกลับ!?

“คีธ สจวร์ต” ชาวประมงวัย 43 ปี 

ที่ผันตัวเองมาเป็นกัปตันเรือนำเที่ยวทะเลสาบล็อคเนส แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของสกอตแลนด์ ในประเทศอังกฤษ สร้างความฮือฮาเกี่ยวกับตัว “เนสซี” สัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองอินเวอร์เนสส์ และทะเลสาบแห่งนี้จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในที่สุดขึ้นมาอีกครั้ง 

หลังจากอ้างว่า ตรวจพบร่องลึกใต้ทะเลสาบแห่งใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนและวัดความลึกได้ถึง 889 ฟุต มากกว่าความลึกในส่วนที่ลึกที่สุดที่ยึดถือกันอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 754 ฟุตอีกมาก

ที่สำคัญก็คือ คีธอ้างว่า ร่องลึกดังกล่าวนี้กว้างใหญ่มากพอที่จะใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของ “เลสซี” สัตว์ประหลาดลึกลับที่เคยมีผู้พบเห็นหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้แน่ชัดเสียทีอีกด้วย

คีธเปิดเผยว่า ตรวจพบร่องลึกดังกล่าวด้วยอุปกรณ์โซนาร์ทันสมัยใหม่เอี่ยมที่ติดตั้งไว้บนเรือของตน ซึ่งสามารถยิงสัญญาณโซนาร์ออกไปและรับข้อมูลกลับมาประมวลผลสร้างเป็นภาพ 3 มิติได้ ส่วนเหตุผลที่ทำให้ต้องใช้โซนาร์ตรวจสอบจนพบร่องลึกใหม่นี้นั้น 

เกิดจากความสงสัยเพราะครั้งหนึ่งเคยแล่นเรือผ่านบริเวณดังกล่าวแล้วสัญญาณโซนาร์แสดงภาพวัตถุขนาดใหญ่ หลังโค้งๆ นอนอยู่ใต้บนผิวพื้นใต้ทะเลสาบ แต่เมื่อกลับไปตรวจสอบก็ไม่พบวัตถุประหลาดดังกล่าวซ้ำ แต่กลับพบร่องลึกขนาดใหญ่นี้แทน

คีธ สจวร์ต ยืนยันว่า แม้จะเป็นกัปตันเรือนำเที่ยวก็จริง แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเชื่อเรื่องสัตว์ประหลาดในทะเลสาบล็อคเนสมาก่อน

ตามข้อมูลของคีธ ร่องลึกดังกล่าวอยู่บริเวณกึ่งกลางของเส้นทางระหว่างโรงแรมแคลนสแมนกับดรัมนาโดรชิต นอกชายฝั่งออกไปเพียง 14.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีการตรวจสอบกันอย่างจริงจังมากนักก่อนหน้านี้ เพราะอยู่ใกล้ชายฝั่งมาก การค้นหาโดยอุปกรณ์โซนาร์ส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้มักเป็นในส่วนตอนกลางของทะเลสาบ เรื่อยไปจนถึงบริเวณอ่าวอูร์คูฮาร์ตมากกว่า คีธยืนยันว่าเขากลับไปสำรวจร่องดังกล่าวซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าความลึกและความกว้างที่วัดได้นั้นถูกต้องจริง

แม้จะยอมรับว่า การค้นพบของตนยังจำเป็นต้องได้รับการสำรวจวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ ยืนยันอีกครั้ง แต่ก็ระบุว่า การพบร่องลึกดังกล่าวนี้แสดงถึงความเป็นไปได้ที่ว่าตำนานเรื่องถ้ำใต้ทะเลสาบและแนวร่องน้ำใต้ก้นทะเลสาบที่เชื่อมต่อล็อคเนสกับทะเลสาบอื่นๆ หรือน่านน้ำเปิดภายนอก อาจเป็นความจริงก็ได้

อย่างไรก็ตาม เอเดรียน ไชน์ ผู้อำนวยการโครงการล็อกเนส ที่เป็นองค์การเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เตือนว่าการค้นพบดังกล่าวต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยทีมงานของตนพร้อมที่จะตรวจสอบยืนยันการค้นพบนี้ และเตือนด้วยว่า การอ่านสัญญาณโซนาร์ในบริเวณใกล้ชายฝั่งนั้นต้องระมัดระวังความผิดปกติที่มักเกิดขึ้นจากสัญญาณสะท้อนจากกำแพงด้านข้าง ซึ่งเรียกกันว่า “ไซด์-โหลบ เอคโค่” ที่จะส่งผลให้การวัดค่าความลึกผิดเพี้ยนไป ซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าโซนาร์จะทันสมัยแค่ไหนก็ตาม

แต่แกรี แคมป์เบล ประธานล็อกเนส มอนสเตอร์ แฟนคลับ บอกว่า การค้นพบของคีธ สจวร์ต ถือเป็นมิติใหม่ที่ทำให้การค้นหา “เนสซี” ดูควรค่าขึ้นมาอีกครั้ง แคมป์เบลตั้งข้อสังเกตว่า ความลึกที่พบใหม่นั้นเกือบเป็น 2 เท่าของความลึกของทะเลเหนือ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะมีร่องลึกทำนองเดียวกันนี้เพิ่มขึ้นอีก

แคมป์เบลชี้ว่า ล็อกเนสตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยครั้ง เมื่อปี 2013 มีแผ่นดินไหวระดับ 2.4 เเม็กนิจูดเกิดขึ้นที่นี่และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ “เนสซี” หายตัวไปตลอดปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1925