ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

พลังลึกลับ แห่งชนเผ่าซามัว ใช้ผิวหนังมองแทนดวงตา


ค้นหา
Custom Search
ใช้ผิวหนังมองแทนดวงตา พลังลึกลับ แห่งชนเผ่าซามัว

แผนที่โบราณซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ตั้ง
ของอาณาจักรมู

ซามัว เป็นประเทศที่ประกอบด้วย
หมู่เกาะอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ชาวซามัวเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอารยธรรมโบราณของ"อาณาจักรมู" 

ซึ่งเป็นอารยธรรมเก่าแก่ในยุคกำเนิดมนุษย์คนแรก 
ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ได้เคยมีความเจริญสูงสุดในเรื่องของศาสนาหลักคำสอนและความก้าวหน้าในเรื่องดาราศาสตร์ และพลังแห่งจักรวาล

อาณาจักรมู หรือ นี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "อาณาจักรแห่งดวงอาทิตย์" ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิก และได้จมลงสู่ท้องทะเลเมื่อประมาณ 11,500 ปี ที่ผ่านมา 

การเผยแผ่อิทธิพลคำสอนในเรื่องของศาสนา ดาราศาสตร์ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ของอาณาจักรมู ถูกนำเข้ามาทางพม่า อินเดีย ไอยคุป ธิเบต จีน ญี่ปุ่นและอาณาเขตกระจายโดยรอบของอาณาจักรมู (สามารถติดตามอ่านเรื่องอาณาจักรมูได้ในกระทู้อื่น)

ก่อนหน้านี้หลายปีมีรายงานมาว่า
ในซามัว มีชาวซามัวที่เป็นคนตาบอดสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ โดยมองผ่านทางผิวหนังของเขา รายงานนี้ถูกหัวเราะเยาะเย้ยหยัน และมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขันของนักวิทยาศาสตร์และประชาชนส่วนใหญ่ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ในหลักความเชื่อของบรรดานักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้น

รายงานต่อไปนี้เป็นรายงานของ นิวยอร์ก เวิลด์ จากปารีส ซึ่งรายงานถึงความสำเร็จของปรากฏการณ์ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในซามัว รายงานนี้เป็นคำตอบให้กับคำหัวเราะเย้ยหยันที่บรรดา
นักวิทยาศาสตร์ต่อรายงานของคนป่าแห่งซามัว บทความนั้นมีอยู่ว่า... "คุณไม่เพียงมีดวงตาในส่วนศรีษะ แต่คุณยังมีดวงตาในส่วนที่เป็นร่างกายของคุณด้วย ร่างกายของคุณเต็มไปด้วยดวงตา! และดวงตาเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ได้
หากได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธี!.." 

มีข้อสรุปจากนักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ได้เป็นพยานในการทดลองของจูลส์ โรเมน(Jules Romain) นักเขียนหนังสือเกี่ยวกับดวงตาพิเศษนี้ว่า ใต้ผิวหนังของเรามี โอเซลลัส(ocelles) ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็กมาก ที่เชื่อมต่อกับระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งเป็นที่มาของ "ดวงตาพิเศษ" ในรายงานมีบันทึกว่า เอ็ม. โรเมน (M. Romain)ได้ประสบความสำเร็จในการฝึกให้คนหลายคนใช้ดวงตาพิเศษนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

พวกเขาสามารถแยกสีและอ่านออกขณะที่ถูกปิดตาอย่างมิดชิด บางคนสามารถมองเห็นได้ด้วยแก้ม นิ้วมือ หรือจมูก คนหนึ่งสามารถบอกลักษณะของหมวกได้ด้วยระยะไกลกว่า 4 หลา ซึ่งเป็นผลมาจากการฝึกพลังสมาธิโดยการเพ่งไปยังจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย ซึ่งต้องใช้พลังจากศูนย์กลางของจิตใจ
เป็นหลัก 

*การฝึกเช่นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับมาถูกสะกดจิตแต่อย่างใด
*การทดลองครั้งแรกได้ผลได้ไม่เด่นชัดนัก แต่การทดลองในครั้งต่อไป ๆ ใด บางคนมีการพัฒนามากขึ้น และจากการทดลองค้นพบได้ว่า ยิ่งคนที่ถูกนำมาฝึกนี้ได้รับการฝึกมากขึ้นเท่าไหร ก็ยิ่งพัฒนาความสามารถในการมองเห็นขยายวงออกไปได้เรื่อยๆ... 

ซึ่งบัดนี้เป็นที่พิสูนจ์ได้แน่ชัดแล้วว่า การใช้ผิวหนังในการมองแทนดวงตานั้นสามารถทำได้จริง!!! 

ดวงตาพิเศษนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่ได้รับการฝึกมาอย่างถูกวิธี ซึ่งการฝึกแบบนี้ชาวซามัวได้รับการฝึกสืบทอดกันมาไม่ต่ำกว่าหลายพันปีแล้ว... 

เป็นที่น่าสังเกตได้ว่า ยิ่งวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ กลับเหมือนยิ่งถอยหลังลงเรื่อยๆ มากขึ้นเท่านั้น วิทยาศาสตร์สมัยใหม่จึงใช้วิธีเดียวที่จะหาทางพัฒนาองค์ความรู้ให้ก้าวไกลกว่าเป็นไปได้ นั้นก็คือ การศึกษาเรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้น อารยธรรมโบราณที่สูญสลาย แล้วทำความเข้าใจมันให้รู้ซึ้ง แล้วนำมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในยุคของปัจจุบัน

รายการบล็อกของฉัน