![]() |
ปริศนา “บูมเมอแรง” อาวุธโบราณ 20,000 ปี ที่ออกแบบตามหลัก “ฟิสิกส์” ได้สะงั้น!
“บูมเมอแรง” เป็นอาวุธโบราณที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเมื่อไรนั้น ไม่มีใครทราบ โดยนักโบราณศาสตร์ได้ขุดค้นพบซากโบราณของบูมเมอแรงซึ่งพบอยู่หลายแห่งของโลก เช่นที่โปรแลนด์ มีอายุมากกว่า 20,000 ปี เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกจากการลองผิดลองถูกของมนุษย์ เพราะมนุษย์ยุคแรกนั้น จะมีวิธีล่าสัตว์โดยใช้หินหรือไม้ในการขว้างออกไป แต่มันพุ่งไปได้ไม่ไกลนัก
ใช้ไคลีในการล่าสัตว์
![]() |
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุใดบูมเมอแรงก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งถูกทำขึ้นโดยชาวพื้นเมือง “อะบอริจินี” ที่อาศัยอยู่ในทวีปออสเตเลีย พวกเขาเริ่มลองผิดลองถูก โดยทดลองโค้งงอไม้และขว้างออกไป ปรากฎว่ามันพุ่งไปได้ไกล และควบคุมทิศทางได้ดีกว่าไม้ธรรมดา หลังจากนั้นพวกเขาก็ทดลองงอไม้หลายๆรูปแบบ จนได้บูมเมอแรงแบบวกกลับไม่ได้ พวกเขาเรียกมันว่า “ไคลี” (Kylies) ที่ใช้สำหรับการล่าสัตว์บกและสัตว์ปีก บูมเมอแรงจะมีขนาดใหญ่และหนักทำให้มีพลังทำลายมาก
![]() |
การทดลองเปลี่ยนรูปร่างบูมเมอแรงยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ทำให้มันสามารถวกกลับมาที่ผู้ขว้างได้ อย่างไรก็ตามบางทฤษฎีบอกว่า ชนเผ่าพวกนี้เลียนแบบโดยใช้การบินของนก จึงสร้างเป็น “รูปตัววี” คล้ายปีกของนกที่กำลังบินนั่นเอง
บูมเมอแรงที่สามารถวกกลับมาถูกใช้ในการแข่งขันในปัจุบัน
![]() |
ปัจจุบันการล่าสัตว์โดยใช้บูมเมอแรงค่อยๆถูกลืมเลือนไป ในภายหลังจึงเปลี่ยนเป็นกีฬาแทน การออกแบบในปัจจุบันคำนึงถึงความสวยงามเป็นหลัก สถิติโลกการขว้างบูมเมอแรงที่แข่งขันกันในสหรัฐอเมริกานั้น ระยะทางไกลที่สุดที่มีผู้ขว้างได้คือ 145 เมตร ประมาณเท่าครึ่งของความยาวสนามฟุตบอล
บูมเมอแรงเป็นอุปกรณ์ที่แสดงถึงความซับซ้อนทางฟิสิกส์ ความรู้ทางกลศาสตร์ของไหล อากาศพลศาสตร์ และแรงทางกลศาสตร์ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยไม้ที่โค้งงอเหมือนกล้วยหอม 2 ข้างนี้ เรียกว่า “ปีก” มีลักษณะเหมือนกับปีกเครื่องบินคือด้านหนึ่งโค้งแต่อีกด้านหนึ่งแบน ขณะที่ปีกหมุน อากาศจะวิ่งผ่านด้านโค้งเร็วกว่าด้านแบน ทำให้เกิดความแตกต่างของความดันอากาศ จึงมีแรงกระทำกับปีกให้ยกขึ้น ส่วนที่ทำไมมันถึงวกกลับได้นั้น
![]() |
จะเกี่ยวกับทฤษฎีทางกลศาสตร์ของไหลนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดจะสัมพันธ์กับวิธีการขว้างด้วยเช่นกัน มีวิธีดังนี้
1.จับตรงปลายบูมเมอแรงให้มากที่สุดเพื่อให้น้ำหนักของบูมเมอแรงไปข้างหลัง
2.ให้ยกขึ้นเหนือไหล่ ให้ตัวบูมเมอแรงอยู่ในแนวตั้ง อย่าออกด้านข้างของตัวเรา เพราะจะทำให้บูมเมอแรงอยู่ในแนวนอน ตามหลักการบูมเมอแรงคือเมื่อปาไปแล้ว มันจะสร้างแรงยกในด้านข้างเพื่อให้มีแรงส่ง วนกลับมาหาเรา
3.ปาไปข้างหน้าโดยโดยให้พุ่งขึ้นทำมุมกับแนวระดับ 5 องศาและสบัดข้อมือเล็กน้อยเพื่อให้มันหมุน มันจะกลับมาอย่างสวยงามหากเราปาให้มันหมุนรอบจัด ถ้าเราปาไม่หมุนมันจะไม่วนกลับมา เพราะการหมุนมันจะสร้างแรงยก
4.เวลาเราจะต้องดูทิศทางลม เราต้องปาสวนลม แต่หากไม่มีลมเลยจะดีมาก สามารถปาทางทิศไหนก็ได้
2.ให้ยกขึ้นเหนือไหล่ ให้ตัวบูมเมอแรงอยู่ในแนวตั้ง อย่าออกด้านข้างของตัวเรา เพราะจะทำให้บูมเมอแรงอยู่ในแนวนอน ตามหลักการบูมเมอแรงคือเมื่อปาไปแล้ว มันจะสร้างแรงยกในด้านข้างเพื่อให้มีแรงส่ง วนกลับมาหาเรา
3.ปาไปข้างหน้าโดยโดยให้พุ่งขึ้นทำมุมกับแนวระดับ 5 องศาและสบัดข้อมือเล็กน้อยเพื่อให้มันหมุน มันจะกลับมาอย่างสวยงามหากเราปาให้มันหมุนรอบจัด ถ้าเราปาไม่หมุนมันจะไม่วนกลับมา เพราะการหมุนมันจะสร้างแรงยก
4.เวลาเราจะต้องดูทิศทางลม เราต้องปาสวนลม แต่หากไม่มีลมเลยจะดีมาก สามารถปาทางทิศไหนก็ได้
ซึ่งถ้าฝึกจนชำนาญก็จะสามารถใช้มือคว้าบูมเมอแรงไว้ได้ หรืออาจทำให้บูมเมอแรงวิ่งเป็นวง 2 หนเหมือนเลข 8 ก็ยังได้