ไม่เน่าเปื่อย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ว่า หลังจากนักโบราณคดีได้ค้นพบกระโหลกมนุษย์เก่าแก่ที่ถูกฝังในเมืองยอร์กของอังกฤษเมื่อปี 2008 ขณะนี้พวกเขาได้เปิดเผยผลการศึกษาว่ากะโหลกดังกล่าวมีอายุกว่าสองพันปีและอยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างมาก แถมยังมีสมองอยู่ภายในกะโหลกซึ่งไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเพราะถูกฝังอยู่ใต้โคลนเหนียวที่ปราศจากออกซิเจน
รายงานระบุว่า กะโหลกมนุษย์ดังกล่าวได้ถูกคำนวณอายุด้วยการตรวจสอบคาร์บอน-14 และพบว่า น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงยุคเหล็กประมาณ 2,600 ปีมาแล้ว โดยคาดว่าเจ้าของกะโหลกนี้ซึ่งมีอายุราว 26-45 ปีน่าจะเสียชีวิตอย่างผิดธรรมดาจากการกระทำที่รุนแรง ทั้งนี้ กะโหลกดังกล่าวอยู่ในสภาพคว่ำหน้าในหลุม ซึ่งตอนแรก คณะนักโบราณคดีคิดว่าเป็นเพียงกะโหลกธรรมดา กระทั่งพวกเขาได้ทำความสะอาด จึงพบว่า มี"ก้อนสมอง"อยู่ในกะโหลกด้วย ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้อย่างมาก และยอมรับว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ต่อมา กลุ่มนักโบราณคดีเมืองยอร์กซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญถึง 34 คน ได้ชำแหละกะโหลกและสมองดังกล่าวซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ยิ่งมาศึกษา พวกเขาเปิดเผยว่า เจ้าของกระโหลกนี้น่าจะเสียชีวิตเพราะถูกตีอย่างรุนแรงที่คอ ก่อนจะถูกตัดศีรษะด้วยมีดแหลมขนาดเล็ก โดยก่อนหน้านี้สันนิษฐานกันว่า เขาอาจถูกแขวนคอแล้วเอาศีรษะเป็นเครื่องบูชายัญหรือเป็นรางวัลแห่งชัยชนะซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำกันทั่วไปในสังคมยุคเหล็กแต่ในที่สุดผู้เชี่ยวชาญก็ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไปเพราะศีรษะดังกล่าวไม่มีร่องรอยของควันไฟหรือสารดองอวัยวะ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สาเหตุที่สมองของศีรษะมนุษย์ยุคเหล็กนี้ไม่เน่าเปื่อย ทั้งที่ถูกฝังใต้ดินซึ่งปกติแล้วควรจะเน่าเพราะมีทั้งน้ำ ออกซิเจน และเชื้อโรค ก็เนื่องจากศีรษะของเขาถูกฝังในหลุมที่เต็มไปด้วยโคลนซึ่งทำให้สามารถรักษาสภาพของสมองไว้ได้โดยที่ยังคงมีไขมันและโปรตีนของเนื้อเยื่อสมองรวมกลุ่มกันอย่างแน่นหนา