 |
ตะลึง!! พบร่างขุนนางจีน ราชวงศ์ชิง 300 ปีไม่เน่า เสื้อผ้าเครื่องเเต่งกายอยู่ครบจีนพบร่างขุนนางระดับสูงสมัยราชวงศ์ชิงถูกฝังใต้ดินนาน 300 ปี
แต่ศพไม่เน่า นักโบราณคดีเร่งศึกษาเพื่อไขปริศนา
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ระหว่างที่คนงานในเมืองเซียนเฉิง มณฑลเหอหนาน
กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นที่ไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ได้มีการค้นพบสุสานโบราณโดยบังเอิญ
ซึ่งสุสานเหล่านี้ถูกฝังอยู่ใต้ผืนดินลึกถึง 2 ม. มีโลงศพอยู่ 3 โลงวางเรียงติดกัน
คนงานจึงแจ้งไปยังนักโบราณคดีท้องถิ่นเพื่อทำการตรวจสอบ
กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นที่ไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ได้มีการค้นพบสุสานโบราณโดยบังเอิญ
ซึ่งสุสานเหล่านี้ถูกฝังอยู่ใต้ผืนดินลึกถึง 2 ม. มีโลงศพอยู่ 3 โลงวางเรียงติดกัน
คนงานจึงแจ้งไปยังนักโบราณคดีท้องถิ่นเพื่อทำการตรวจสอบ
 |
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ได้ทำการเปิดฝาโลงพบร่างของชายคนหนึ่งในชุดขุนนางระดับสูงสมัยราชวงศ์ชิง ไว้ผมเปียที่น่าประหลาดคือ ไม่เพียงชุดที่สวมใส่จะยังสมบูรณ์แบบแม้เวลาจะผ่านมาถึง 300 ปีแล้วเท่านั้น
แต่ร่างของเจ้าของโลงยังดูเหมือนคนที่เพิ่งเสียชีวิตมาหมาดๆ สร้างความตื่นเต้นให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม หลังจากนำร่างออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ศพก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แต่ร่างของเจ้าของโลงยังดูเหมือนคนที่เพิ่งเสียชีวิตมาหมาดๆ สร้างความตื่นเต้นให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม หลังจากนำร่างออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ศพก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากใบหน้าและผิวกายที่ดูเหมือนยังมีสีเลือด แปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ทั้งยังมีกลิ่นเน่าเหม็นออกมาจากร่าง
 |
นักโบราณคดีจึงต้องเร่งนำร่างดังกล่าวไปเก็บรักษาไว้ที่มหาวิทยาลัยท้องถิ่น
เพื่อทำการศึกษาต่อไปว่าอะไรที่ทำให้ศพถูกเก็บรักษามาอย่างดีเป็นเวลา
ถึง 3 ศตวรรษแต่กลับเริ่มแสดงความเสื่อมสภาพในเวลาเพียงไม่นาน
เพื่อทำการศึกษาต่อไปว่าอะไรที่ทำให้ศพถูกเก็บรักษามาอย่างดีเป็นเวลา
ถึง 3 ศตวรรษแต่กลับเริ่มแสดงความเสื่อมสภาพในเวลาเพียงไม่นาน
พยานในที่เกิดเหตุที่ชื่อว่า นายหลิว เปิดเผยกับสำนักข่าว Sina ว่าในบรรดาโลงศพทั้ง 3 โลง มีเพียงโลงกลางเท่านั้นที่พบร่างมัมมี่สภาพดีอย่างเหลือเชื่อ
 |
ขณะที่โลงซ้ายขวาเหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้นก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวถูกแปรสภาพเป็นแปลงเกษตร
จึงไม่มีใครทราบว่าใต้ผืนดินมีสุสานโบราณตั้งอยู่แต่มีผู้พบเหรียญทองแดงโบราณในบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง
กระทั่งมีการเปลี่ยนพื้นที่นี้เป็นโครงการก่อสร้าง จึงได้ค้นพบปริศนาจากยุคราชวงศ์ชิงในที่สุด
ลูคัส นิกเคิล ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและโบราณคดีจีนแห่งสถาบัน SOAS ในกรุงลอนดอนเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เดลิเมลว่า โดยปกติแล้วชาวจีนจะไม่ใช้กระบวนการรักษาร่างแบบเดียวกับที่ชาวอียิปต์ทำ มัมมี่ แต่พยายามรักษาร่างให้คงทนที่สุดด้วยการเก็บรักษาไว้ในโลงขนาดใหญ่
 |
หรือไม่ก็ในสุสานใต้ดินขนาดมหึมา เพราะเชื่อว่าผู้ตายจะใช้ชีวิตในปรโลกในห้องของสุสานนั่นเอง
ตามหลักความเชื่อของบางท้องถิ่นในจีน มีวิธีการรักษาร่างที่สืบทอดกันอย่างลับๆ
เพื่อเหตุผลบางประการ แต่กระบวนการรักษามีความซับซ้อน จึงมักใช้กันในหมู่ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ระดับสูงเท่านั้น
เพื่อเหตุผลบางประการ แต่กระบวนการรักษามีความซับซ้อน จึงมักใช้กันในหมู่ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ระดับสูงเท่านั้น
 |
ที่ผ่านมามีการค้นพบศพจากยุคโบราณของจีนที่มีสภาพสมบูรณ์น้อยครั้ง
และมักเสื่อมสลายอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอก ทว่า เมื่อเร็วๆ นี้เริ่มมีการค้นพบศพที่มีลักษณะคล้ายมัมมี่กันมากขึ้น
และมักเสื่อมสลายอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอก ทว่า เมื่อเร็วๆ นี้เริ่มมีการค้นพบศพที่มีลักษณะคล้ายมัมมี่กันมากขึ้น
