ภาพจาก google earth ล่าสุดไม่สามารถเห็น Marree Man อีกต่อไป |
หนังสือพิมพ์ the Advertiser ฉบับวันที่ 2 ตุลาคมได้เปิดเผยภาพล่าสุดของ google earth แสดงให้เห็นว่า Marree Man ภาพลึกลับขนาดยักษ์ที่ปรากฎอยู่กลางทะเลทรายในผืนทวีปออสเตรเลียมาตั้งแต่เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ถึงวันนี้ภาพปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ได้หายไปแล้วในช่วง 17 ปีที่ผ่านมาการขัดถูของทรายที่เคลื่อนที่ตามกาลเวลา, น้ำฝนท่วมไหลหลาก และต้นไม้ขึ้นเซาะพื้นดินได้ทำให้ภาพคล้ายชาวอะบอริจินขนาดความสูง 4.2 กม. และมีเส้นล้อมรอบ 28 กม. ถูกพบที่ทางใต้ของ Lake Eyre South บนที่ราบสูง Finnis Springs ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้เลือนหายไปแล้ว
ภาพ Marree Man ถ่ายจากยานอวกาศโดยองค์การ NASA (ภาพชั่วคราวจาก News Limited) |
เมื่อ17 ปีที่แล้ว Marree Man ได้กลายเป็นข่าวสร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลก เมื่อนักบินพบภาพปริศนาขนาดใหญ่อันดับที่สองของโลกในวันที่ 26 มิถุนายน 1998 เป็นภาพคล้ายชาวอะบอริจินกำลังล่าสัตว์ โดยมือซ้ายถือบูมเมอแรงหรือท่อนไม้ในท่ากำลังจะขว้างอยู่กลางทะเลทรายประมาณ 60 กม.จากเมือง Marree ต่อมาจึงถูกเรียกว่า “Marree Man” โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Stuart’s Giant” ตามชื่อคนที่นำภาพมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนสำหรับต้นกำเนิดของผู้สร้างภาพ Marree Man ในลักษณ์เจาะลึกเข้าไปในดินแข็งอย่างหินสีแดงยังเป็นปริศนามาถึงวันนี้ว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างไร และใช้เครื่องมืออะไรขุดเจาะ จนมีคนเลยเถิดเชื่อกันว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จากต่างดาว
ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่ขึ้นเครื่องบินชม Marree Man กลางอากาศ ยังพอสามารถเห็นส่วนราง ๆ ของบูมเมอร์แรง, ส่วนของขาข้างหนึ่ง และส่วนลำตัว
ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา Marree Man สามารถทำเงินให้กับการท่องเที่ยวท้องถิ่นเฉลี่ยปีละ 22 ล้านเหรียญ
นาย Phil Turner เจ้าของผับ Marree Hotel กล่าวว่า การหายไปของ Marree Man ก็คือหายะของธุรกิจท้องถิ่น
ภาพ Marree Man ถ่ายจากยานอวกาศโดยองค์การ NASA (ภาพชั่วคราวจาก News Limited) |
เขากล่าวว่า ในทุก ๆ วันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและอาหารที่ผับของเขา พร้อมกับคำถามว่า “Marree Man อยู่ที่ไหน?” ซึ่งเขาต้องตอบว่า “It’s gone.” ไปเรียบร้อยแล้ว
นาย Turner และนาย Trevor Wright เจ้าของกิจการ Wrights Eyre หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวใน Far North ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เข้าไปเห็น Marree Man เคยพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลรัฐหาทางปกป้องภาพปริศนาขนาดยักษ์นี้และยกย่องให้เป็นภาพสัญลักษณ์หนึ่งของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย แต่มันได้สายไปเสียแล้ว