ตำแยแมวชื่อสามัญ Indian acalypha, Indian nettle, Indian copperleaf, Tree-seeded mercury
ตำแยแมว. ชื่อวิทยาศาสตร์ Acalypha indica L. จัดอยู่ในวงศ์ยางพารา (EUPHORBIACEAE)
สมุนไพรตำแยแมว มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หานแมว (ภาคเหนือ), ตำแยตัวผู้ ตำแยป่า หญ้าแมว หญ้ายาแมว (ไทย) เป็นต้น
ลักษณะของตำแยแมว
ต้นตำแยแมว จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูงได้ประมาณ 2 ฟุต แตกกิ่งก้านจากโคนต้น เนื้อภายในอ่อนและไม่แข็งแรง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำและการแยกต้น ชอบขึ้นตามที่ดินเย็น ๆ พบขึ้นเป็นวัชพืชตามที่รกร้างทั่วไป และตามที่มีอิฐปูนเก่า ๆ ผุ ๆ
ต้นตำแยแมว จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูงได้ประมาณ 2 ฟุต แตกกิ่งก้านจากโคนต้น เนื้อภายในอ่อนและไม่แข็งแรง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำและการแยกต้น ชอบขึ้นตามที่ดินเย็น ๆ พบขึ้นเป็นวัชพืชตามที่รกร้างทั่วไป และตามที่มีอิฐปูนเก่า ๆ ผุ ๆ
ใบตำแยแมว ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก (ใหญ่กว่าใบพุทราเล็กน้อย) ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี รูปไข่ หรือรูปกลมโต ปลายใบมนหรือแหลมเล็กน้อย โคนใบสอบ ส่วนขอบใบหยักเล็กน้อย แผ่นใบเป็นสีเขียว ด้านบนมีขนขึ้นปกคลุม
ดอกตำแยแมว ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ รอบ ๆ ลำต้น ส่วนยอดของช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย ลักษณะของดอกจะคล้ายกับใบอ่อน
ที่มีขนาดเล็กแต่เมื่อบานเต็มที่แล้วใบอ่อนนี้ก็ยังคงติดอยู่และไม่ร่วง มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน มีขนปกคลุม แต่ละใบประดับจะหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก
ที่มีขนาดเล็กแต่เมื่อบานเต็มที่แล้วใบอ่อนนี้ก็ยังคงติดอยู่และไม่ร่วง มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน มีขนปกคลุม แต่ละใบประดับจะหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก
สรรพคุณของตำแยแมว
ต้นมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ต้น)
ใช้เป็นยาช่วยขับเสมหะ ขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบ เสมหะในโรคหอบหืด ด้วยการใช้ใบสด ๆ นำมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 4 ถ้วยแก้ว ให้เหลือเพียง 2 ถ้วยแก้ว ใช้ดื่มครั้งละ 1 ถ้วย เช้าและเย็น (ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)
ช่วยแก้อาการไอ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ด้วยการถอนทั้งต้นและราก นำมาต้มกับน้ำดื่มสัก 1 แก้ว ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ แก้วเดียวก็หาย หรือจะนำมาโขลกผสมกับน้ำซาวข้าว กรองใส่ผ้าขาวบางให้ได้น้ำข้น ๆ 1 แก้ว แล้วดื่มก็มีสรรพคุณดีเช่นกัน (ทั้งต้น)
ใช้เป็นยาช่วยขับเสมหะ ขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบ เสมหะในโรคหอบหืด ด้วยการใช้ใบสด ๆ นำมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 4 ถ้วยแก้ว ให้เหลือเพียง 2 ถ้วยแก้ว ใช้ดื่มครั้งละ 1 ถ้วย เช้าและเย็น (ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)
ช่วยแก้อาการไอ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ด้วยการถอนทั้งต้นและราก นำมาต้มกับน้ำดื่มสัก 1 แก้ว ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ แก้วเดียวก็หาย หรือจะนำมาโขลกผสมกับน้ำซาวข้าว กรองใส่ผ้าขาวบางให้ได้น้ำข้น ๆ 1 แก้ว แล้วดื่มก็มีสรรพคุณดีเช่นกัน (ทั้งต้น)
*ต้น ราก ใบ หรือทั้งต้นหากนำมารับประทานในปริมาณมาก
จะทำให้คลื่นเหียนอาเจียน และทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร *(ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)
ลำต้นที่อ่อน ๆ ใช้เป็นยาล้างเมือกในท้องหรือทำความสะอาด
ทางเดินอาหาร ด้วยการนำต้นสดทั้งต้นมาคั้นเอาแต่น้ำ ซึ่งน้ำที่ได้นี้จะใช้เป็น purgative (ต้น)
*ต้น ราก และใบมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ยาระบาย (ต้น,ราก,ใบ)
*ใบใช้เป็นยาขับพยาธิ ขับพยาธิเส้นด้าย ด้วยการนำใบสดมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ หรือนำมาต้มกิน หรือจะใช้ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำผสมกับกระเทียมก็ได้ (ต้น,ใบ)
*ต้นหรือใบนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาถอนพิษเมา
เบื่อในทางเดินอาหาร (ต้น,ใบ)
*ใบใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำผสมกับเกลือแกง ใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
*ใบแห้งนำมาป่นให้ละเอียดใช้โรยรักษาแผล
เนื่องจากนอนมาก (ใบ)
*ใบใช้เป็นยาทาแก้โรค rheumatism ได้ (ใบ)
*ใบสดนำไปตีหรือฟาดเบา ๆ ตามตัวหรือบริเวณที่ถูกพิษคันจากต้นตำแยตัว
เมีย จะช่วยทำให้หายจากอาการคันได้ (ใบ)
แพทย์แผนไทยบางพื้นที่จะใช้รากตำยาแมวกะเพียงเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำ 3-4 แก้วจนเดือน ใช้ดื่มก่อนอาหารมื้อไหนก็ได้วันละ 1 แก้ว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็ง ช่วยกระจายเลือดลม แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศ
ดีขึ้นอีกด้วย (ราก)
จะทำให้คลื่นเหียนอาเจียน และทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร *(ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)
ลำต้นที่อ่อน ๆ ใช้เป็นยาล้างเมือกในท้องหรือทำความสะอาด
ทางเดินอาหาร ด้วยการนำต้นสดทั้งต้นมาคั้นเอาแต่น้ำ ซึ่งน้ำที่ได้นี้จะใช้เป็น purgative (ต้น)
*ต้น ราก และใบมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ยาระบาย (ต้น,ราก,ใบ)
*ใบใช้เป็นยาขับพยาธิ ขับพยาธิเส้นด้าย ด้วยการนำใบสดมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ หรือนำมาต้มกิน หรือจะใช้ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำผสมกับกระเทียมก็ได้ (ต้น,ใบ)
*ต้นหรือใบนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาถอนพิษเมา
เบื่อในทางเดินอาหาร (ต้น,ใบ)
*ใบใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำผสมกับเกลือแกง ใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
*ใบแห้งนำมาป่นให้ละเอียดใช้โรยรักษาแผล
เนื่องจากนอนมาก (ใบ)
*ใบใช้เป็นยาทาแก้โรค rheumatism ได้ (ใบ)
*ใบสดนำไปตีหรือฟาดเบา ๆ ตามตัวหรือบริเวณที่ถูกพิษคันจากต้นตำแยตัว
เมีย จะช่วยทำให้หายจากอาการคันได้ (ใบ)
แพทย์แผนไทยบางพื้นที่จะใช้รากตำยาแมวกะเพียงเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำ 3-4 แก้วจนเดือน ใช้ดื่มก่อนอาหารมื้อไหนก็ได้วันละ 1 แก้ว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็ง ช่วยกระจายเลือดลม แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศ
ดีขึ้นอีกด้วย (ราก)
ข้อควรระวัง : ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้มากจนเกินขนาด เพราะจะทำให้อาเจียน ส่วนต้นและรากมีฤทธิ์ทำให้ช่องทางเดินอาหารเกิดอาการระคายเคืองได้ คนพื้นบ้านจึงนำมาต้มกินเพื่อเป็นยาขับเสมหะ
advertisements
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของตำแยแมว
ทั้งต้นสดและต้นแห้งจะมีสารจำพวก alkaloid, acalyphine, tannin, vestin, volatile oil แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ส่งมาจาทางแอฟริกาใต้ ซึ่งพบรายงานอยู่ใน Petelot reports จาก Remington & Roets พบว่าสามารถที่จะแยกได้สาร Cyanoginitie glucoside, Quibrachitol และ Triacetonamine
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของตำแยแมว
ทั้งต้นสดและต้นแห้งจะมีสารจำพวก alkaloid, acalyphine, tannin, vestin, volatile oil แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ส่งมาจาทางแอฟริกาใต้ ซึ่งพบรายงานอยู่ใน Petelot reports จาก Remington & Roets พบว่าสามารถที่จะแยกได้สาร Cyanoginitie glucoside, Quibrachitol และ Triacetonamine
ประโยชน์ของตำแยแมว
ใบสดใช้ปรุงเป็นอาหารได้ เช่น แกงเลียง
ทั้งต้นใช้เป็นยาถอนพิษของโรคแมวได้ดี มีผู้ค้นพบว่าในขณะที่แมวไม่สบายหรือมีไข้ หากมันได้เคี้ยวลำต้นของตำแยแมวเข้าไป ไม่นานก็จะหายจากอาการไข้ได้ และในขณะเดียวกันถ้าแมวนั้นกินสารที่มีพิษเข้าไป ก็แก้โดยการให้กินต้นตำแยแมวเข้าไป แล้วมันก็จะอาเจียนหรือสำรอกพิษออกมา จึงเป็นการช่วยถอนพิษในแมวได้ ทำให้มันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงนิยมเรียกตำแยตัวผู้ว่า“ตำแยแมว“
ทั้งต้นใช้เป็นยาถอนพิษของโรคแมวได้ดี มีผู้ค้นพบว่าในขณะที่แมวไม่สบายหรือมีไข้ หากมันได้เคี้ยวลำต้นของตำแยแมวเข้าไป ไม่นานก็จะหายจากอาการไข้ได้ และในขณะเดียวกันถ้าแมวนั้นกินสารที่มีพิษเข้าไป ก็แก้โดยการให้กินต้นตำแยแมวเข้าไป แล้วมันก็จะอาเจียนหรือสำรอกพิษออกมา จึงเป็นการช่วยถอนพิษในแมวได้ ทำให้มันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงนิยมเรียกตำแยตัวผู้ว่า“ตำแยแมว“
ต้นตำแยแมวนี้หากถอนขึ้นมาทั้งราก เมื่อแมวเห็นเข้าก็จะรีบตรงเข้ามากลิ้งเกลือกบนต้นตำแยแมวอย่างเคลิบเคลิ้มและมีความสุขอยู่นานพอควร จากนั้นก็จะกินรากจนหมด ซึ่งสันนิษฐานว่ารากของตำแยแมวน่าจะมีกลิ่นที่ดึงดูดแมวได้เช่นเดียวกับ Pheromone ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศที่ใช้ดึงดูดเพศตรงข้าม จึงทำให้แมวรู้สึกหลงไหลและเคลิบเคลิ้ม แต่ก็ใช