ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

เปิดตำนาน คามิคาเซ่ ลมแห่งเทพเจ้า

เปิดตำนาน ‘คามิคาเซ่’ ลมแห่งเทพเจ้าที่ช่วยให้ญี่ปุ่นรอดพ้นจากการรุกรานของจักรวรรดิมองโกลที่เหี้ยมโหด!
ค้นหา
Custom Search
ในยุคสมัยที่กองทัพมองโกลผงาดเหนือแผ่นดินเอเชีย ด้วยการพิชิตแผ่นดินจีนอันยิ่งใหญ่และสถาปนาราชวงศ์หยวน กุบไลข่าน จอมทัพคนสำคัญของจักรวรรดิมองโกล ต้องการพิชิตเกาะญี่ปุ่น ดินแดนแห่งนักรบซามูไรผู้ทรงเกียรติ จนนำมาสู่สงครามการรุกรานครั้งใหญ่ของกองทัพมองโกลเหนือแผ่นดินญี่ปุ่นระหว่างปี ค.ศ.1274 – 1281 หลังจากที่อาณาจักรเกาหลีได้ยอมจำนนต่อจักรวรรดิมองโกล จนนำมาสู่เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

สิ่งที่น่าสนใจในสงครามมองโกล-ญี่ปุ่น ก็คือการริเริ่มใช้อาวุธดินปืนเป็นครั้งแรก โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถูกคิดค้นโดยกองทัพมองโกล ด้วยการนำดินระเบิดมาสร้างเป็นระเบิด แล้วขว้างใส่ศัตรูจนก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
หากพิจารณาอย่างละเอียด จะพบว่ากองทัพซามูไรญี่ปุ่นแทบไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกองทัพฝ่ายมองโกลเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขารอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ด้วยลมศักดิ์สิทธิ์ ที่รู้จักกันในชื่อของ ‘คามิคาเซ่’ ลมแห่งเทพเจ้าที่พัดพาหายนะมาสู่กองทัพเรือมองโกลที่เคลื่อนพลผ่านท้องทะเลเพื่อเตรียมพร้อมบุกแผ่นดินใหญ่เพื่อสั่งสอนญี่ปุ่น ดินแดนเล็ก ๆ ที่คิดแข็งข้อกับจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จักอีกแห่งอย่างจักรวรรดิมองโกล

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1266 จักรวรรดิมองโกลภายใต้การปกครองของราชวงศ์หยวน ได้ส่งทูตมาเจรจากับญี่ปุ่นด้วยข้อเสนอขอให้ยอมแพ้และเป็นเมืองขึ้นต่อจักรวรรดิมองโกล โดยยกตัวอย่างของอาณาจักรเกาหลีที่ปกครองโดยราชวงศ์โครยอ ที่ยอมจำนนไปก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม องค์จักรพรรดิของญี่ปุ่นไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ต่อข้อเสนอดังกล่าว หลังจากนั้นจักรวรรดิมองโกลก็พยายามใช้วิธีทางการทูตกับญี่ปุ่น เพื่อหวังว่าญี่ปุ่นจะตอบรับข้อเสนอและยอมจำนน แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่ประสบความสำเร็จ จนนำมาสู่การประกาศสงครามของจักรวรรดิมองโกลในเวลาต่อมา

การปะทะกับระหว่างกองทัพมองโกลและญี่ปุ่นเกิดขึ้นประปราย โดยส่วนใหญ่แล้วกองทัพมองโกลจะครองความได้เปรียบ ผู้นำหัวเมืองของญี่ปุ่นหลายคนเสียชีวิตระหว่างการสู้รบ แต่ขวัญกำลังใจของกองทัพลูกพระอาทิตย์ยังดีเยี่ยม และสามารถตีโต้กองทัพฝ่ายรุกรานได้บ้าง
โดยหนึ่งในสงครามที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะไม่พ้นการศึกที่โทริคาอิ-กาตะ ที่ ซุเอนากะ ทาเคซากิ นำกำลังเข้าโจมตีกองทัพมองโกลผู้รุกรานอย่างห้าวหาญ ด้วยกำลังเสริมจากแม่ทัพฝ่ายญี่ปุ่นด้วยกัน ทำให้กองทัพมองโกลพ่ายแพ้และสูญเสียกำลังพลไปหลายพันนาย

อย่างไรก็ตาม แม่ทัพของฝ่ายมองโกลมองว่ากำลังพลของตนกำลังเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียจากการสู้รบ จึงตัดสินใจถอนกำลังขึ้นเรือเพื่อกลับไปยังเกาหลี แต่กองทัพญี่ปุ่นฉวยโอกาสนี้ลอบโจมตีทหารฝ่ายมองโกลที่เหนื่อยล้าและไม่ทันตั้งตัว และด้วยความช่วยเหลือจากสายลมแห่งเทพเจ้าหรือคามิคาเซ่ ทำให้เรือขนส่งของฝ่ายมองโกลหลายลำอับปางจนทำให้ทหารหลายพันนายเสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำตาย
ในปี ค.ศ.1281 กองทัพมองโกลกลับมาล้างอายจากศึกครั้งก่อน แต่ครั้งนี้กองทัพญี่ปุ่นเตรียมพร้อมมาอย่างดี จนทำให้กองทัพมองโกลที่เกรียงไกรได้รับความพ่ายแพ้หลายสมรภูมิรบ และถอนกำลังออกไปในที่สุด อาจกล่าวได้ว่านี่คือสงครามที่ทำให้กุบไลข่านต้องเจ็บตัวมากที่สุด เนื่องจากเขาไม่สามารถพิชิตดินแดนแห่งลูกพระอาทิตย์ได้

ในปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นไม่เคยลืมเลือนเหตุการณ์กล่าว เนื่องจากลมแห่งเทพเจ้าหรือคามิคาเซ่ได้กู้ชีวิตพวกเขาไว้ อีกทั้งกองทัพซามูไรยังมีความแข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยสูง จนทำให้พวกเขาสามารถขับไล่ผู้รุกรานกลับออกไปได้เป็นผลสำเร็จ

รายการบล็อกของฉัน